"3ต 1ผ" สูตรพิชิตสมัครบัตรเครดิตอนุมัติง่าย+ไว!

"3ต 1ผ" สูตรพิชิตสมัครบัตรเครดิตอนุมัติง่าย+ไว!

"3ต 1ผ" สูตรพิชิตสมัครบัตรเครดิตอนุมัติง่าย+ไว! โดย บัตรเครดิตไทยบล็อก
    เข้าประเด็นเลยนะครับทุกท่าน ที่เข้ามาบทความนี้เพราะอยาก....สมัครบัตรเครดิต....แล้วก็ให้ผ่านด้วย ถูกต้องมั้ยครับ หลายคนอาจจะเคยมีประสบการณ์สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านมาแล้ว โดยที่ไม่มีโอกาสรู้เลยว่าไม่ผ่านเพราะอะไร ทั้งที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขทุกอย่าง(คิดเอง) แต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดหรือป่าว (เป็นอีกเรื่อง) ...บอกตงโครตเบื่อคำนี้จริงๆ ...เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด...ไหนบอกมาซิว่ากำหนดอะไร ยังไง ขอรายละเอียดหน่อย ขอโทษค่ะ ทางธนาคารขอสงวนสิทธิ์ เนื่องจากเป็นความลับของธนาคาร ....เอาอีกล่ะ....อารายของ.... แต่ไม่เป็นไร วันนี้ผมขอแนะนำวิธีที่จะเพิ่มโอกาสอนุมัติในการสมัครบัตรเครดิตให้คุณ รวมถึงการขจัดข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเป็นสาเหตุที่จะทำให้คุณสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านอีกด้วย

สำหรับหลักง่ายๆ สมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน ผมเรียกสั้นๆ ว่า "3ต 1ผ" คือ รายได้ตรงตามเงื่อนไข (ต1), ไม่ติดบูโร (ต2), ติดต่อได้ (ต.3) และ ผ่อนชำระได้ (1ผ) เรียกรวมๆ ว่า "3ต 1ผ" สำหรับรายละเอียด มาดูกัน

 ต1 คือ รายได้ตรงตามเงื่อนไข

  สำหรับการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิตนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยหลักเกณฑ์กว้างๆ ไว้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตที่เราเรียกกันว่า นอนแบงค์ หรือธนาคารพาณิชย์ ทั้งในไทยหรือต่างประเทศ จะต้องปฏิบัติตาม สาระสำคัญ คือ

1. เป็นผู้มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน หรือไม่ต่ำกว่า 180,000 บาทต่อปี ซึ่งต้องแสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้
2. มีบัญชีเงินฝากที่สถาบันการเงินซึ่งผู้ประกอบธุรกิจพิจารณาแล้วเห็นว่าเพียงพอต่อการชำระหนี้ ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจสามารถกำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเองได้

เคล็ดลับ 1 สเตทเม้นมีความสำคัญ เพราะ สถาบันการเงินที่จะออกบัตรเคตดิตให้ดูกระแสเงินสดหมุนเวียนในบัญชีเงินฝากของสถาบันการเงินเป็นระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ทั้งนี้ โดยมากจะใช้เป็นหลักการพิจารณาสำหรับผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือผู้ที่มีรายได้เป็นลักษณะคอมมิชชั่น
เคล็ดลับ 2  สถาบันการเงิน จะไม่ดูเฉพาะรายได้หลัก เช่น เงินเดือน แต่จะดูรายได้อื่นๆ ประกอบด้วย ถ้ามีก็ควรจะแนบหลักฐานการรับเงินไปด้วย


ต2 คือ ไม่ติดบูโร

ผ่านไปสำหรับหลักเกณฑ์กว้างๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้เกี่ยวกับการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิต นอกจากกรอบที่และนอกจากหลักเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดแล้ว วิธีการพิจารณานั้น อาจจะมีความเหมือน หรือแตกต่างกันได้ แต่ที่จะปฏิบัติเหมือนๆ กันโดยไม่ได้เป็นการบังคับ แต่ถ้าไม่ตรวจก็ไม่มีวันอนุมัติ นั่นคือการตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร ผมเรียกง่ายๆ ว่า เช็คเครดิตบูโร (หรือ ต2)  แต่ก็อย่างที่ทราบกันนะครับ ใครที่ติดแบล็คลิส ติดบูโร โอกาสกู้เงินนั้นแทบไม่มีเลย สำหรับรายละเอียดในการตรวจสอบเครดิตบูโร หรือปัญหาเรื่องติดแบล็คลิสเพิ่มเติมนั้น ก็ติดตามกันได้ที่ " เครดิตบูโรบล็อก " ในบทความนี้ อยากให้ทราบเกี่ยวกับรายละเอียดการสมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน ก็ขอไม่ลงรายละเอียดนะครับ   แต่มีกรณีศึกษาเกี่ยวกับ เครดิตบูโรมาเล่าให้ฟังกันนะครับ  ซึ่งเคสนี้จะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างพอสมควร ทำไมผมสมัครธนาคารนี้แล้วไม่อนุมัติ แต่พอไปสมัครบัตรเครดิตธนาคารนี้ แล้วอนุมัติ ถึงแม้สถาบันการเงินจะมีการตรวจสอบข้อมูลจากเครดิตบูโรเหมือนกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างในการพิจารณา คือจะ “เข้ม” จะ “จาง” ได้ต่างกัน ยกตัวอย่าง เช่น นาย A สมัครบัตรเครดิตกับ สถาบันการเงิน ก. และสถาบันการเงิน ข. พร้อมกัน ณ เดือนมกราคม 2558 โดยมีข้อมูลในเครดิตบูโร คือนาย A เคยมีประวัติมีสินเชื่อเคหะกับธนาคารอื่นที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่นาย A มาสมัครบัตรเครดิตในครั้งนี้  มีการค้างชำระในเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม ของปี 2557 แต่พอเดือนเมษายน ก็มีการชำระคืนทั้งหมด 4 งวด รวมดอกเบี้ยค้าง ทั้งนี้ อาจจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ด้วยข้อมูลที่เหมือนกันนี้ สถาบันการเงิน ก. อาจจะปฏิเสธเลย เพราะได้มีกฎเกณฑ์ว่า จะไม่พิจารณาบุคคลที่เคยมีประวัติค้างชำระเลย (เข้ม) แต่สถาบันการเงิน ข. อาจจะพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิตให้ ด้วยทางสถาบันการเงินแห่งนี้ มีหลักเกณฑ์ว่า การค้างชำระดูแค่สถานะปัจจุบัน และจากเมษายนถึงธันวาคม 2557 มีการชำระตรงมาตลอด (จาง) ดังนั้น จะเห็นแล้วว่า ถึงจะมีข้อมูลเดียวกัน แต่ละสถาบันการเงินก็อาจมีวิธีพิจารณาที่แตกต่างกันได้


ต.3 คือ ติดต่อได้

     ต. ตัวที่สามนี้ ติดต่อได้ เป็นเรื่องของการสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างความเชื่อมั่น บัตรเครดิตแค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นบัตรที่ให้เครดิตแก่ผู้ถือ ทำให้สามารถซื้อของได้ก่อน โดยยังไม่ได้จ่ายเงินจริงๆ ออกไป หนึ่งในขั้นตอนการอนุมัติบัตรเครดิตของธนาคารคือการยืนยันตัวตนของคุณ ด้วยการโทรเข้ามายังเบอร์ที่ให้ไว้ในเอกสารใบสมัคร เพราะฉะนั้นเมื่อส่งเอกสารการสมัครไปแล้วคุณควรเตรียมพร้อมรับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ธนาคารไว้เสมอ และการที่เจ้าหน้าที่ธนาคารโทรมาแล้วคุณรับสาย เป็นนัยสำคัญว่า คุณมีความสามารถในการจ่ายเงินได้อย่างแน่นอนไม่มีเบี้ยวกัน


และ 1ผ คือ ผ่อนชำระได้ 

   สำหรับการพิจารณาอนุมัติบัตรเครดิต นอกจากจะดูรายได้ของผู้ที่ต้องการสม้ครบัตรเครดิตแล้ว ยังมีการพิจารณาในเรื่องอื่นๆ อาทิ อายุ เงินเดือน อาชีพ ภาระหนี้สินอื่นๆ เป็นต้น ปัจจุบันนี้ ผมมั่นใจว่า ธนาคารแทบจะทุกแห่งได้ปรับเปลี่ยน และเพิ่มวิธีพิจารณาสินเชื่อ จากเจ้าหน้าที่อย่างเดียว มาใช้ระบบ เครดิตสกอร์ริ่ง เป็นตัวเสริมอีกทางหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สุดท้ายแล้วการจะอนุมัติบัตรเครดิตให้กับใครก็ตาม ก็ยังเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารอยู่ดี สำหรับระบบ เครดิตสกอร์ริ่ง คือวิธีการที่ใช้สถิติมาเป็นตัวประเมินผล ว่าจะอนุมัติหรือไม่ ผ่านทางตัวเลขเป็นคะแนน มีเกณฑ์ผ่านและไม่ผ่าน สำหรับหลักการทำงาน คือ ให้เจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลของผู้ต้องการมีบัตรเครดิตลงไปในระบบ ข้อมูลต่างๆ จะถูกปรับเปลียนเป็นตัวเลขคะแนน ซึ่งในระบบเอง จะไม่มีรายละเอียดว่าข้อมูลหมวดนี้ ตรงนี้ สัดส่วนคะแนนเป็นเท่าไหร่ หลังจากนั้นระบบจะประมวลผลทั้งหมด ออกมาเป็นคะแนน ทางสถาบันการเงินแต่ละแห่งจะตั้งเกณฑ์คะแนนที่ผ่านและไม่ผ่านไว้  สำหรับผู้ที่คะแนนเมื่อประมวลผลออกมาแล้วผ่าน ก็คือ อนุมัติบัตรเครดิต แต่ถ้าน้อยกว่า ก็คือ ไม่ผ่าน หรือไม่อนุมัติ นั่นเอง บางคนก็มีสงสัย จะมีเหมือนสอบบ้างมั้ย คือ เกือบผ่าน คำตอบก็คือ มี แล้วจะทำยังไง ก็มี 2 ทางเลือก ทางเลือกแรก คือ ไม่อนุมัติ เอาตามผลที่ระบบแจ้งมา กับทางเลือกที่สอง ย้อนกลับไปพิจารณาใหม่ นั่นก็คือ จะต้องมีข้อมูลใหม่ๆ ใส่เข้าไปในระบบด้วย วิธีนี้เจ้าหน้าที่เอง อาจเรียกเอาหลักฐาน/เอกสารบางอย่างเพิ่มเติมจากผู้กู้ เพื่อให้ไปคีย์ข้อมูลในระบบอีกครั้ง แล้วได้สกอร์ผ่านนั่นเองครับ


    ทั้งหมดทั้งมวล "3ต 1ผ" รายได้ตรงตามเงื่อนไข (ต1), ไม่ติดบูโร (ต2), ติดต่อได้ (ต.3) และ ผ่อนชำระได้ (1ผ) ทีแรกตั้งใจจะเขียนสั้นๆ เอ่อ เกือบเต็มหน้ากระดาษ แต่ก็ไม่เป็นไรครับ คิดว่าคงมีประโยชน์บ้าง อย่างน้อยผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตคงรู้บ้างแล้วว่า ต้องเตรียมตัวอะไร ยังไง ...ขอบคุณสำหรับการอ่านจนจบ ....บัตรเครดิตไทยบล็อก