6 วิธีบริหารหนี้ให้เป็น (หนี้บัตรเครดิต หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้เงินสด ก็จัดการได้)

6 วิธีบริหารหนี้ให้เป็น
คนส่วนใหญ่ เมื่อได้ยินคำว่า หนี้ มักจะมีความรู้สึกไปในทางไม่ดี โดยเฉพาะหากบอกว่าเป็นลูกหนี้ด้วยแล้ว มักจะไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง อาจจะด้วยสาเหตุที่ว่า กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าเราเป็นหนี้ หรือกลัวคนอื่นจะรู้จำนวนหนี้ของเรา กลัวว่าคนอื่นจะรู้ว่าเราไม่มีเงิน จึงต้องไปกู้เงินมา อะไรประมาณนี้เป็นต้น แต่เชื่อเถอะครับ ทุกวันนี้ มองไปทางไหน 100 คน ผมว่า คงไม่ถึง 20 คน ที่ไม่มีหนี้ หรือไม่ได้เป็นหนี้กับสถาบันการเงินอะไร ฉะนั้นแล้ว ผมว่า การเป็นหนี้ไม่ได้เป็นเรื่องไม่ดีอะไร น่าจะแค่ความรู้สึกของคนเราเท่านั้นเอง  การเป็นหนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เลวร้ายเลย บางครั้งเราเองก็มีความจำเป็นจะต้องใช้เงิน เพื่อซื้อสิ่งของ หรือบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ต่ออนาคตของเรา แต่ว่าเราไม่มีเงินสดพอจ่ายในตอนนั้น ก็เลยต้องก่อหนี้ขึ้น เริ่มปรับเปลี่ยนความคิดตัวเองเสียใหม่ตั้งแต่ตอนเลยนี้ครับ เพราะหากคุณมี "หนี้ดี" มันคือ หนี้ที่จะช่วยสร้างอนาคต และสร้างความมั่นคงในระยะยาวให้กับชีวิตคุณเอง ฟังแบบนี้แล้ว คุณยังคิดว่า การมีหนี้เป็นเรื่องไม่ดีหรือเปล่า แน่นอนครับ มีหนี้ก็ต้องใช้หนี้ แต่เราสามารถ "เลือกเป็นลูกหนี้ทีดี" ได้ เพื่อให้มันเป็นหนี้ดี (หนี้ที่จะช่วยสร้างอนาคต และสร้างความมั่นคงในระยะยาวให้กับชีวิต) ไม่ว่าจะเป็นหนี้ดี หรือลูกหนี้ที่ดี เราสามารถทำด้วยตัวเองได้ โดยเริ่มตั้งแต่การวางแผนการบริหารจัดการเงินที่จะไปขอกู้มา วางแผนการจ่ายคืนให้ตรงเวลา โดยไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระสำหรับผู้กู้มากนัก รวมถึงเลือกสินเชื่อที่เหมาะกับความต้องการ เลือกสินเชื่อที่จะให้สิทธิประโยชน์แก่ตัวเรา และตรงเป้าหมายในการกู้ยืมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมยกตัวอย่าง การเป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรเครดิตให้ความสะดวกสบายกับเราก็จริงอยู่ แต่หากเราขาดการวางแผนที่ดี บางครั้งอาจจะใช้จ่ายเกินตัว ท้ายที่สุดแล้ว ก็อาจทำให้เป็นหนี้สินพอกพูนจนเกินกำลังจะชำระหนี้ได้ ดังนั้น เมื่อใช้บัตรเครดิตก็ควรมีวินัยทางการเงินที่ดี  การเป็นหนี้ บางครั้งเราก็เลือกไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็น ลูกหนี้ที่ดีได้ ด้วยการบริหารหนี้ให้เป็น วันนี้ผมขอฝาก 6 วิธีบริหารหนี้ให้เป็น ไม่ว่าจะเป็น หนี้บัตรเครดิต หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้เงินสด ก็สามารถใช้เป็นแนวทางบริหารจัดการหนี้ของคุณได้ครับ...

ห้ามจ่ายหนี้ด้วยการรูดบัตรเครดิตอะไรบ้าง {กฏเหล็กแนะนำ}

ห้ามจ่ายหนี้ด้วยการรูดบัตรเครดิตอะไรบ้าง {กฏเหล็กแนะนำ}
ค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ห้ามรูดบัตรเครดิตจ่าย โดยเด็ดขาด!
สมัครบัตรเครดิตแล้ว บัตรเครดิตก็มีแล้ว แถมบางครั้งอาจจะมีหนี้บัตรเครดิตแล้วด้วย ย้ำกันตลอดว่าบัตรเครดิตมันมีทั้งคุณและโทษ มีแล้วต้องใช้ให้เป็น ใช้ให้เกิดประโยชน์ แล้วก็ต้องใช้ที่จำเป็นจริงๆ ไม่งั้นบัตรเครดิตที่คิดว่า พอมีแล้วจะเป็นประโยชน์ก็จะเป็นโทษแก่ผู้เป็นเจ้าของมันเสียเอง หลักสำคัญๆ ซึ่งต้องจำให้ขึ้นใจ ก็คือ ใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ หลังจากนั้นจะต้องชำระหนี้บัตรเครดิตให้หมดโดยเร็ว ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ ถึงแม้ว่า บางคนอาจจะเลือกชำระค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าอินเตอร์เน็ต ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ เพราะเป็นหนี้จำนวนไม่มาก และก็คิดว่าคงชำระหมดได้ในงวดเดียว ซึ่งก็ยังถือว่ายังอยู่ในกฏเหล็กที่ว่า ต้องชำระหนี้ให้หมดโดยเร็วอยู่ดี แต่สิ่งที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ คือค่าใช้จ่ายต่อไปนี้ ที่ไม่แนะนำให้รูดบัตรเครดิตมาชำระโดยเด็ดขาด จะถือว่าเป็นกฏเหล็กอีกข้อก็ได้ครับ ถ้าฝืนรูดบัตรเครดิตมาชำระหนี้เหล่านี้ ได้นั่งปวดหัวกับเรื่องหนี้บัตรเครดิตไปอีกนาน มีหนี้อะไรบ้าง ห้ามจ่ายด้วยการรูดบัตรเครดิต มาดูกัน ...

สมัครบัตรเครดิตอะไรดี?

บัตรเครดิตธนาคารไหนดี
#สมัครบัตรเครดิตอะไรดี? เชื่อหรือไม่ว่า จำนวนผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิต แต่มักจะค้นหาผ่านคำว่า "สมัครบัตรเคดิตอะไรดี" ตามด้วย ดีที่สุด หรือตามด้วยปีนั้นๆ มีนำนวนไม่น้อย และกำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เป็นเหตุเป็นผลว่า ทำไมผู้ให้บริการบัตรเครดิตต่างๆ ต้องแข่งขันด้านการให้บริการ โปรโมชั่น ส่วนลด ส่วนเสริมจากบัตรเครดิต ซึ่งนับวันก็ยิ่งทวีรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆ ผู้คนที่ถือบัตรเครดิตแทบจะเลือกไม่ถูกเลยว่า จะใช้บริการบัตรเครดิตกับโปรโมชั่น ส่วนเสริม ส่วนลดบัตรเครดิตเจ้าไหนดี ซึ่งตอนนี้ "บัตรเครดิต" บล็อก ก็พยายามจัดโปรโมชั่นบัตรเครดิตของบริษัทบัตรเครดิตต่างๆ ทำเป็นข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบ และจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิต แต่ไม่รู้ว่าจะสมัครบัตรเครดิตธนาคารไหนดี ซึ่งถ้าเสร็จแล้วก็จะได้นำเสนอให้ทราบกันต่อไป แต่ตอนนี้ ผมขอนำเสนอแนวคิดง่ายๆ สำหรับไว้ให้ผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตแล้วก็เลือกไม่ถูกว่าจะสมัครบัตรเครดิตอะไรดี ถึงจะเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด อ่านรายละเอียดกันเลยครับ...

ปัญหาหนี้บัตรเครดิต จัดการอย่างไรดี

ปัญหาหนี้บัตรเครดิต
ปัญหาหนี้บัตรเครดิต จัดการอย่างไรดี ... ต้องขอบอกก่อนว่า สำหรับวิธีที่จะจัดการปัญหาหนี้บัตรเครดิต นี้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีหนี้บัตรเครดิต และต้องการหาทางออก เรามีเคล็ดลับดีๆ มาแนะนำในการลดหนี้ หรือชำระหนี้ให้หมดโดยเร็ว โดยก่อนอื่นนั้น เราจะต้องรู้จักกับหนี้ที่เหมาะสมของตัวเราเองเสียก่อน ผมอยากจะถามทุกท่านว่า ทราบหรือไม่ว่า มีหนี้บัตรเครดิตเท่าไรถึงจะเป็นหนี้ที่เหมาะสม คำแนะนำ คือ ... จำนวนหนี้ที่ต้องผ่อนชำระบัตรเครดิตนั้นไม่ควรเกิน 10% ของรายได้สุทธิต่อเดือน หรือ ไม่ควรกู้เกิน 20% ของรายได้สุทธิตลอดทั้งปี เพราะจะส่งผลต่อการผ่อนชำระหนี้ได้ ผมว่ามากกว่าร้อยละ 50 น่าจะเกินเกณฑ์นี้ ไม่เป็นไรครับ เมื่อเป็นหนี้แล้ว เราก็ต้องชำระ ผมขอเสนอ เคล็ดลับจัดการปัญหาหนี้บัตรเครดิต (แบบคาดไม่ถึง) เพื่อให้ชำระหนี้ให้หมดโดยเร็ว มีดังต่อไปนี้

ระหว่าง "สมัครบัตรเครดิต" กับ "รักษาเครดิตบูโร" คุณคิดว่าอะไรยากกว่ากัน

"สมัครบัตรเครดิต" กับ "รักษาเครดิตบูโร"
เชื่อหรือไม่ว่า ระหว่าง "สมัครบัตรเครดิต" กับ "รักษาเครดิตบูโร" อย่างหลังทำได้ยากกว่า ผมว่าหลายท่านคงไม่เห็นด้วยกับผมอย่างแน่นอน และคงคิดว่าเป็นไปได้หรือ แล้วมีเหตุมีผลอย่างไร ก่อนจะสมัครบัตรเครดิตได้ เราจะต้องมีเครดิตดีมาก่อน ไม่งั้น ธนาคารเจ้าของบัตรจะไม่มีทางอนุมัติบัตรเครดิตให้เราแน่ๆ นั่นก็คือ จะต้องมีประวัติการผ่อนชำระในเครดิตบูโรที่ดี เช่น ชำระตามจำนวน หรือชำระตรงเวลา เป็นต้น เมื่อพอเราเริ่มมีบัตรเครดิต และเริ่มใช้สักระยะหนึ่งแล้ว จะมีความรู้สึกว่าตนเองมีกำลังซื้อจากเงินในอนาคตมากขึ้น ทำให้เริ่มมีความคิดเปลี่ยนไป เช่น จากเดิมที่เคยชำระแบบเต็มวงเงิน เริ่มเปลี่ยนเป็นการชำระเพียงบางส่วน ดังนั้น หากไม่มีวินัยในการใช้เงินที่ดีแล้ว จะเริ่มมีการค้างชำระหนี้บัตรเครดิตจาก 1 เดือน เป็น 2 เดือน 3 เดือน และในที่สุดก็ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ถ้าเป็นลักษณะนี้ การรักษาข้อมูลเครดิตบูโรให้ดูดีจะเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งส่งผลต่อการขอกู้เงิน หรือการขอสินเชื่อในครั้งต่อๆ ไป เช่น ในอนาคตหากมีความประสงค์ต้องการซื้อบ้าน รถยนต์ จะทำให้สูญเสียโอกาสในการกู้เงิน เพราะการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ ในปัจจุบัน ใช้วิธีดูประวัติการผ่อนชำระผ่านทางระบบข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) กล่าวคือ หากเป็นผู้ที่มีประวัติการผ่อนชำระไม่ดี อาจไม่สามารถกู้เงินได้อีกในครั้งต่อไป

"อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต" วิธีคิดและคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต

"อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต" วิธีคิดและคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต /@* ผู้ใช้บัตรเครดิตหลายราย ยังไม่ทราบรายละเอียดวิธีคิดและคำนวณอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต ซึ่งหากไม่ศึกษาให้ดี บางครั้งอาจจะคิดว่าในใบแจ้งหนี้ยอดใช้บัตรเครดิต ธนาคารเจ้าของบัตรคิดอัตราดอกเบี้ยอย่างไร คำนวณผิดหรือไม่ เรื่องนี้อาจจะทำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตหลายรายเข้าใจผิดได้ เนื่องจากปัจจุบันนี้ บัตรเครดิต กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว นับตั้งแต่ออกจากบ้าน บางท่านอาจจะแวะเติมน้ำมัน หรือบางท่านอาจจะใช้บริการจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าอินเตอร์เน็ต จากบัตรเครดิต จากบทความก่อนหน้านี้ การใช้บัตรเครดิตเป็นบัตรกดเงินสดนั้น เป็นการใช้เงินในอนาคต จึงเปรียบเสมือนเป็นดาบสองคม หากผู้ใช้มีวินัยทางการเงิน บัตรเครดิตก็จะมีประโยชน์สำหรับผู้ใช้บัตรเครดิต ในทางตรงข้าม หากคุณไม่มีวินัยทางการเงิน เมื่อครบกำหนดชำระ คุณไม่สามารถชำระหนี้บัตรเครดิตได้ จะทำให้คุณเสียดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียม หรือบางครั้งอาจจะมีค่าใช้จ่ายจากการติดตามทวงถามหนี้ บัตรเครดิตนี้ก็จะเป็นโทษมากกว่าคุณสำหรับผู้ใช้มันนั่นเอง
วิธีคิดและคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต   ถ้าจะกล่าวถึงประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิต สิ่งที่ผมคิดไว้ลำดับแรกก็คงจะเป็นในเรื่องของความสะดวก ปลอดภัย ในการซื้อสินค้าและบริการภายในวงเงินที่ได้รับ โดยไม่ต้องพกเงินสด ปกติร้านค้าทั่วไปบางแห่งอาจจะมีส่วนลดจากการรูดบัตรฯ เมื่อชำระค่าสินค้าและบริการ อีกทั้งการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ยังสามารถสะสมแต้ม เพื่อแลกของรางวัลได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีบริการตัดค่าใช้จ่ายและบริการผ่านบัตรเครดิต เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการรวมค่าใช้จ่ายมาไว้ในที่เดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากบัตรฯ บริการที่เห็นเด่นชัดก็เช่น ที่จอดรถเฉพาะผู้ถือบัตรฯ (เดี๋ยวนี้ตามห้างสรรพสินค้า เริ่มมีบริการนี้มากขึ้น) บริการรถลาก และบริการซ่อม หากรถยนต์เสีย เป็นต้น

หนี้บัตรเครดิต ชำระหมดเร็ว โอกาสรวยก็เร็วขึ้น

หนี้บัตรเครดิต
หนี้บัตรเครดิต ชำระหมดเร็ว โอกาสรวยก็เร็วขึ้น &*> ผมพยายามเน้นอยู่ตลอดว่า บัตรเครดิต ใช้เมื่อยามจำเป็น ยิ่งต้องใช้กดเงินสดด้วยแล้ว ยิ่งต้องใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุแล้วว่ามีเหตุจำเป็นจริงๆ สำหรับการกู้ยืมครั้งนี้ สิ่งสำคัญลำดับต่อมาคือต้องมั่นใจว่าจะสามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ สิ่งนี้ทำได้ด้วยการกำหนดระยะเวลาและจำนวนเงินที่จะจ่ายต่อเดือน ผมอยากให้ท่านลองตั้งคำถามในใจว่า เมื่อเราเป็นหนี้แล้ว เราวางแผนการชำระหนี้ไว้อย่างไร คำถามนี้มันทำให้ผมหวนคิดถึงซีรีย์หนังจีนแนวสงคราม ซึ่งมีกุนซือแค้วนนั้น แคว้นนี้ เป็นผู้วางแผนการณ์รบให้ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญ จะแพ้ชนะก็อยู่ที่แผนการณ์กุนซือของแต่ละฝ่ายนั่นเอง การชำระหนี้ก็ไม่ได้แตกต่างกัน หากเราไม่มีการวางแผนการชำระหนี้ บางครั้งอาจจะมีเงินไม่พอชำระหนี้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะปิดหนี้ได้หมดเมื่อไหร่ เสียโอกาสในการออมเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งในวันข้างหน้า เพราะแต่ละวันที่ผ่านไปก็ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ  ผมมีคำแนะนำเกี่ยวกับแผนชำระหนี้ ซึ่งมันทำได้ไม่ยาก เพียงแค่...

"บัตรเครดิต" เมื่อจะใช้เป็นบัตรกดเงินสดอย่างไรจึงคุ้มค่าและเสียดอกเบี้ยน้อยที่สุด

"บัตรเครดิต" เมื่อจะใช้เป็นบัตรกดเงินสดอย่างไร
"บัตรเครดิต" เมื่อจะใช้เป็นบัตรกดเงินสดอย่างไรจึงคุ้มค่าและเสียดอกเบี้ยน้อยที่สุด %^! ประโยชน์ของบัตรเครดิตอีกอย่างก็คือ สามารถใช้เป็นบัตรกดเงินสดได้ ตามจำนวนเงินที่ได้รับอนุมัติจากธนาคารเจ้าของบัตร และเป็นแหล่งเงินสำรองที่ช่วยให้เราอุ่นใจ หากเกิดเหตุการณ์จำเป็น เดือดร้อน ต้องกู้ยืมเงินมาบรรเทาความเดือดร้อนนั้นๆ การพกบัตรเครดิตติดตัวไว้ไม่ได้แปลว่าเป็นหนี้แต่อย่างใด ตราบใดที่เรายังไม่ได้กดเงินสดหรือไม่ได้รูดบัตรเครดิตเพื่อซื้ออะไร เพราะสถาบันการเงินจะเริ่มคิดดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อ มีการเริ่มถอนเงินผ่านบัตรกดเงินสดแล้วเท่านั้น ก่อนจะใช้บัตรเครดิตเพื่อทำการกดเงินสดมีหลักง่ายๆ ในการพิจารณาอยู่สองข้อ คือ ใช้ในยามจำเป็นจริงๆ แล้วจะต้องสามารถหาเงินมาชำระหนี้ให้หมดอย่างรวดเร็ว ขอย้ำอีกครั้งนะครับ จะต้องใช้ในยามจำเป็น และจะต้องหาเงินมาชำระยอดหนี้นี้ให้หมดโดยเร็ว ฉะนั้นแล้ว ก่อนที่ท่านจะใช้บัตรเครดิตเพื่อกดเงินสด ต้องชั่งใจตัวเองดูด้วยคำถามสองข้อนี้ หากตอบว่าใช่แล้วก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากบัตรเครดิตเพื่อกดเงินสดได้อย่างคุ้มค่าและเสียดอกเบี้ยน้อยที่สุดด้วย

บัตรเครดิต มีแล้วใช้ให้เป็น ไม่ปวดหัว ไม่ปวดตับ!

"บัตรเครดิต"
   หลังจากผ่านพ้นคำถามอันน่าปวดหัว "สมัครบัตรเครดิตธนาคารไหนดี" ท้ายที่สุดแล้วธนาคารก็คงอนุมัติบัตรเครดิตให้ หากท่านอยู่ในกฏเกณฑ์ และข้อกำหนดของธนาคารเจ้าของบัตร หลายคนคิดว่า พอได้บัตรเครดิตแล้วก็คงคิดว่าไว้รูดซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ เสร็จแล้วก็จ่ายเงินคืน ก็เป็นอันจบ แต่ผมอยากบอกว่า ปัญหาของผู้ใช้บัตรเครดิตยังมีอีกหลายปัญหา ผมยกตัวอย่าง เช่น ปัญหาหนี้บัตรเครดิต ซึ่งถ้าจะพูดกันตามตรงแล้ว ก็เกิดจากใช้บัตรเครดิตไม่เป็นนั่นเอง "บัตรเครดิต" แน่นอนผู้ที่จะเป็นเจ้าของสิ่งนี้ได้จะต้องมีเครดิตอย่างไม่ต้องสงสัย และเพราะคำว่า เครดิตนี่เอง ทำให้บางครั้ง พวกเรา เหล่าคนใช้บัตรเครดิตมักใช้จ่ายแต่ละครั้งโดยไม่ระวัง ทั้งนี้ก็อาจจะเป็นเพราะว่า บัตรเครดิตนี้มีความสะดวก คล่องตัว ซื้อสินค้าก็แค่รูด เซ็นต์ชื่อให้พนักงานขาย ก็เสร็จแล้ว เรียกว่า เท่ห์ มีระดับ ไม่ต้องใช้เงินสดซื้อ แต่ได้สินค้าเหมือนคนที่ใช้เงินสดซื้อ การใช้บัตรเครดิตให้เป็นนั้น เช่น ใช้เพื่อเป็นส่วนลด เพื่อสะสมคะแนน จะมีประโยชน์ และไม่กลายเป็นปัญหาภาระหนี้ในอนาคตด้วยการจ่ายชำระเต็มจำนวน แต่หากใช้ไม่ถูกวิธีนอกจากจะเป็นโทษต่อผู้ใช้แล้วยังอาจส่งให้ผู้ใกล้เคียงกับผู้ใช้บัตรเครดิตเดือดร้อนไปด้วยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีชำระหนี้ไม่ไหว อาจทำให้ครอบครัวเดือดร้อนด้วยก็ได้ หลายคนจึงมักเปรียบเทียบบัตรเครดิตเป็นเสมือนดาบสองคม บัตรเครดิต บล็อก กำลังจะนำพาทุกท่านไปสู่วิธีใช้บัตรเครดิตให้เป็น จะได้ไม่ปวดหัว ไม่ทำให้ครอบครัวต้องเดือดร้อน มีวิธีอย่างไร ... ตามนี้เลยครับ

เตือนภัยโซเซียลมีเดียระวังถูกหลอกให้โอนเงิน (ระวังภัยจากโลกออนไลน์)

ภัยลกออนไลน์

เตือนภัยโซเซียลมีเดียระวังถูกหลอกให้โอนเงิน (ระวังภัยจากโลกออนไลน์)
การสื่อสารผ่านโลกออนไลน์ ช่วยให้คุณติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก รวดเร็ว แต่ความสะดวกสะบายนั้น อาจจะแฝงมากับอันตราย หากคุณใช้อย่างไม่ระวัง เช่น การหลอกให้โอนเงินจากบุคคลที่ติดต่อกันทางสื่อออนไลน์ที่มิจฉาชีพมักจะปลอมตัวให้ดูดี น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณรับเป็นเพื่อนและสร้างความสนิทสนม ก่อนแต่งเรื่องหลอกลวงต่างๆ ให้ตายใจ และจบลงด้วยการอ้างว่า ได้โอนเงินหรือส่งของขวัญมาให้ แต่ถูกระงับการโอนหรือถูกตรวจสอบ ซึ่งคุณต้องโอนเงิน เพื่อจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมก่อน จึงจะได้รับเงินหรือของขวัญนั้น โดยจะหลอกให้คุณโอนเงิน ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุผลต่างๆ กว่าคุณจะรู้ตัวว่าถูกหลอก ก็หลงโอนเงินไปมากแล้ว ต่อไปนี้เป็นเหตุผลตัวอย่างที่เหล่ามิจฉาชีพใช้เพื่อข้ออ้าง สำหรับหลอกล่อเยื่อ เพื่อให้หลงโอนเงินให้กับเหล่ามิจฉาชีพ ...

  • เป็นนักธุรกิจที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก โดยส่งหลักฐานการโอนเงินจำนวนมากเพื่อจ่ายค่าสินค้ามาให้เหยื่อดู
  • เป็นผู้ที่ได้รับมรดกเป็นจำนวนมาก แต่ติดเงื่อนไขต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถรับเงินได้ด้วยตนเอง จึงขอให้เหยื่อรับเงินแทน
  • เป็นผู้ใจบุญที่ต้องการบริจาคเงินเป็นจำนวนมหาศาลให้มูลนิธิหรือองค์กรการกุศลต่าง ๆ เมื่อแจ้งว่าจะบริจาคเงินให้กับเหยื่อแล้ว จะส่งหลักฐานการโอนเงินปลอมมาให้เหยื่อดู
  • เป็นชาวต่างชาติที่ต้องการหารักแท้ โดยอ้างว่าพร้อมที่จะย้ายมาอยู่กับเหยื่อเพื่อสร้างครอบครัวร่วมกัน  จึงโอนเงินค่าบ้าน ค่ารถ หรือเงินทั้งหมดที่มีมาให้เหยื่อ หรืออาจหลอกเหยื่อว่าจะส่งของหรือเงินสดมาให้เหยื่อทางไปรษณีย์


ปัญหา "บัตรเครดิต" ปัญหาเรื่องการเงิน ร้องเรียนทีไหนดี

ร้องเรียนปัญหาบัตรเครดิต

ปัญหา "บัตรเครดิต" ปัญหาเรื่องการเงิน ร้องเรียนทีไหนดี /// ยิ่งมีการแข่งขันธุรกิจบัตรเครดิตเยอะ ปัญหาเรื่องบัตรเครดิตก็ยิ่งมีเยอะเหมือนเงาตามตัว ประกอบกับเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้รูปแบบของผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินมีความหลากหลายและซับซ้อนยิ่งขึ้น เรา (ผู้ใช้บริการทางการเงิน) จึงจำเป็นจะต้องเข้าใจในบริการทางการเงิน ซึ่งในบางครั้งไม่เพียงแค่เรา แม้แต่เจ้าหน้าที่บางธนาคารเองก็ยังไม่สามารถเข้าใจบริการทางการเงินของตนเองได้ทั้งหมด อีกทั้งเพื่อให้สามารถเลือกใช้รูปแบบบริการด้านการเงินให้เหมาะสมกับความต้องการของเรา รวมถึงรู้เท่าทันกลโกงด้านการเงิน เช่น กลโกงบัตรเครดิต กลโกงแชร์ลูกโซ่ กลโกงบัตรเครดิตปลอม เป็นต้น จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดตั้ง ศคง. หรือศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2555 เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน​​ด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินอย่างเป็นระบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินแก่ผู้ใช้บริการทางการเงิน

เทคนิค "ชำระหนี้บัตรเครดิต" ให้หมดเร็วในแบบฉบับ 5G

"ชำระหนี้บัตรเครดิต"

เทคนิค "ชำระหนี้บัตรเครดิต" ให้หมดเร็วในแบบฉบับ 5G ... หากจะกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับบัตรเครดิต ผมเชื่อว่ามีคนสองกลุ่ม คนแรกคือกลุ่มที่มีความต้องการสมัครบัตรเครดิต และต้องการให้ธนาคารอนุมัติบัตรเครดิตให้ ส่วนคนอีกกลุ่มซึ่งผ่านการอนุมัติจากธนาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นคือ เป็นเจ้าของบัตรเครดิตอย่างน้อยก็หนึ่งใบ ผมอยากจะขอเตือนสติกันนิดนึงนะครับว่า เมื่อท่านมีความเดือดร้อนจากปัญหาเงินขาดมือ การกดเงินจากบัตรกดเงินสดหรือบัตรเครดิต เป็นตัวช่วยหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อน โดยที่เราไม่ต้องไปกู้ยืมจากแหล่งเงินกู้นอกระบบ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยแบบมหาโหดนั่นเอง อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดและบัตรเครดิต ก็ยังอยู่ในระดับที่โหดอยู่เหมือนเดิม นั่นคือ อยู่ที่ 20-28% ต่อปี เพราะฉะนั้นแล้ว หากใครที่พาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เป็นหนี้บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด ทางออกที่ดีที่สุด คือ ต้องปลดหนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้เราประหยัดเงินสำหรับจ่ายเป็นดอกเบี้ยให้กับทางธนาคารเจ้าของบัตร แล้วจะทำอย่างไรให้ชำระหนี้บัตรเครดิตได้เร็วที่สุด วันนี้ผมมีเทคนิคมาแนะนำให้ทุกท่านได้ทราบกันนะครับ

[บัตรเครดิตธนาคารไหนดี] แนะนำให้อ่านก่อนสมัครบัตรเครดิต

บัตรเครดิตที่น่าเชื่อถือที่สุด

  "กสิกรไทยรับรางวัลบัตรเครดิตที่น่าเชื่อถือที่สุด" จากงาน Thailand’s Most Admired Brand 2016 สำหรับรางวัล Thailand’s Most Admired Brand พิจารณาจากความเห็นของผู้ใช้บริการ/ผลิตภัณฑ์กลุ่มนั้นๆ จากทั่วประเทศ ถึงปัจจัยที่มีผลต่อการใช้บริการ/ผลิตภัณฑ์นั้นๆ อาทิภาพลักษณ์องค์กร ภาพพจน์ แบรนด์พนักงาน ผลิตภัณฑ์ โปรโมชั่นโฆษณา เป็นต้น สำหรับรางวัลนี้ ถ้าแบรนด์ใดได้รับ ย่อมถือเป็นการตอกย้ำความสำเร็จความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า ที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองกับเทรนด์ และความต้องการของผู้บริโภค ได้จนเป็นที่ประทับใจนั่นเอง และธนาคารกสิกรไทยก็ได้รับ "รางวัลบัตรเครดิตที่น่าเชื่อถือที่สุด" เป็นการตอกย้ำ และคำตอบที่ชัดเจนมากในขณะนี้ หากใครกำลังหาคำตอบว่า จะสมัครบัตรเครดิตธนาคารไหนดี โดย นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้แทนธนาคารฯ รับมอบรางวัลบัตรเครดิตที่น่าเชื่อถือที่สุด ประจำปี 2016 จากผลการสำรวจและวิจัย Thailand’s Most Admired Brand ปีที่ 16 จัดทำโดยนิตยสารแบรนด์เอจร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ 5 แห่ง  โดยมีนายธนเดช   กุลปิติวัน บรรณาธิการบริหาร นิตยสารแบรนด์เอจ เป็นผู้มอบ ในงาน Thailand’s Most Admired Brand 2016 ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ นอกจากธนาคารกสิกรไทยที่ได้รับรางวัล "บัตรเครดิตที่น่าเชื่อถือที่สุด" ยังมีธนาคารออมสินก็ได้รับรางวัล แบงก์รัฐที่ครองใจผู้บริโภค สำหรับท่านใดที่ต้องการธุรกรรมด้านใด แต่ละธนาคารมีความชำนาญหรือความเชียวชาญแต่ละด้านแตกต่างกัน ดูได้จากรางวัลที่แต่ละธนาคารได้รับ จะทำด้านไหนก็ควรเข้าหาผู้เชียวชาญด้านนั้นโดยเฉพาะ จะได้ประโยชน์กับตัวท่านเองมากที่สุดนะครับ
#บัตรเครดิตธนาคารไหนดี

“ลุ้นเชียร์โอลิมปิกสุดพลังถึงบราซิล” โปรโมชั่นพิเศษสำหรับบัตรเครดิต/เดบิตวีซ่ากสิกรไทย

โปรโมชั่นบัตรเครดิต

“ลุ้นเชียร์โอลิมปิกสุดพลังถึงบราซิล” โปรโมรชั่นพิเศษสำหรับบัตรเครดิต/เดบิตวีซ่ากสิกรไทย
   ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) เอาใจผู้ที่ต้องการไปร่วมชม และเชียร์มหกรรมกีฬาระดับโลกโอลิมปิก รีโอ เกมส์ 2016 ด้วยโปรโมรชั่นบัตรเครดิตที่มีชื่อว่า “ลุ้นเชียร์โอลิมปิกสุดพลังถึงบราซิล” ร่วมลุ้นแพ็กเกจชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่บราซิล 12 ที่นั่ง มูลค่ารวมกว่า 6.8 ล้านบาท โดย นางสาวศุภนีวรรณ จูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และนายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ “ลุ้นเชียร์โอลิมปิกสุดพลังถึงบราซิล” ร่วมกับวีซ่า ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของโอลิมปิก รีโอ เกมส์ 2016 มอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ลูกค้าบัตรเครดิต/เดบิตวีซ่ากสิกรไทย โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้

"สมัครบัตรเครดิตอนุมัติง่าย"

บัตรเครดิตอนุมัติง่ายที่สุด"

หากจะบอกว่า "เปิดบัตรเครดิต" คงไม่เป็นที่เข้าใจกันมากนักสำหรับผู้ที่ต้องการ "สมัครบัตรเครดิต" แถมยังมีข้อกังวลใจ ข้อสงสัย สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของบัตรเครดิตกับคำถามที่ว่า สมัครบัตรเครดิตอะไรดี หรือ สมัครบัตรเครดิตของอะไร ขั้นตอนการทำบัตรเครดิตเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ต้องกังวลให้มากครับ เคยได้ยินไหมครับ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครับ ก่อนจะไปถึงเรื่องนั้น อยากสมัครบัตรเครดิตอย่างไรให้อนุมัติง่ายๆ คือเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด และคำตอบของคำถามอยู่ในหน้านี้แล้ว ขอเพียงท่านสละเวลาเล็กน้อยอ่านให้จบ การสมัครบัตรเครดิตให้ผ่านการอนุมัติ จะเป็นเรื่องกล้วยๆ สำหรับท่าน ต้องการเปิดบัตรเครดิต [สมัครบัตรเครดิต] บัตรเครดิตบล็อกมีเคล็ดลับที่ง่ายโครตๆ ในการสมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน สมัครบัตรเครดิตอย่างไรให้อนุมัติง่ายๆ มาฝากกัน เชิญติดตามครับ
    ก่อนอื่นเลย สำหรับธุรกิจประเภทบัตรเครดิต จะอยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย เรียกว่าแบงค์ชาติหรือ ธปท.นั่นเอง หลักเกณฑ์ทั่วไป ซึ่งเป็นหลักสำคัญ คร่าวๆ สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของบัตรเครดิตนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย กำหนดไว้ว่า "ผู้ที่ถือบัตรเครดิตนั้นจะต้องมีรายได้จากแหล่งที่มาต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 15,000.- ต่อเดือน (หนึ่งหมื่นห้าพันบาท) หรือว่า 180,000.- ต่อปี (หนึ่งแสนแปดหมื่นบาท)" ยกตัวอย่าง รายได้จากแหล่งที่มาต่างๆ เช่น อาชีพพนักงานขาย หากเงินเดือนไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนด (15,000.-) สามารถเอาค่าคอมมิชชั่นมารวมด้วยได้  แล้วสำหรับหลายๆ ท่านอาจจะไม่ใช่ผู้มีรายได้ประจำ ก็จะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

"บัตรเครดิต คือ" + "แนะนำบัตรเครดิต"

"แนะนำบัตรเครดิต"

"บัตรเครดิต คือ" + "แนะนำบัตรเครดิต" ลด 50% เฉพาะผู้ที่ถือบัตรเครดิตXXX ... เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ใครหลายๆ คนมักจะต้องผ่านตาเมื่อเดินผ่านห้างสรรพสินค้า หรือร้านขายสินค้าทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่ปั้มเติมน้ำมันก็ตาม หลายคนคงต้องสงสัยแล้วว่าทำไมเราต้องใช้บัตรเครดิต และบัตรเครดิตคืออะไร มีไว้ทำอะไรได้บ้าง ทำไมเราไปช้อปปิ้งที่ไหน ก็มีแต่คนรูดบัตรเครดิต เดินตามห้างสรรพสินค้า และร้านค้าทั่วไป ก็จะมีโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิตเยอะแยะมากมาย ก็คงต้องบอกว่า ปัจจุบันนี้ บัตรเครดิตกำลังเป็นที่ต้องการ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และในอนาคตก็คงจะต้องได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก เหตุเพราะมีความโดดเด่น เช่น ใช้ง่าย จ่ายคล่อง ห้างสรรพสินค้ามีโปรโมรชั่นอยู่เสมอ และมีคู่แข่งอยู่แทบทุกธนาคาร ก่อนที่เราจะลงในรายละเอียดมากกว่านี้ เรามาทำความรู้จักกับ "บัตรเครดิต" กันก่อนว่า บัตรเครดิตคืออะไร สิทธิประโยชน์ต่างๆ ข้อดีบัตรเครดิต ข้อเสียบัตรเครดิต และข้อแนะนำสำหรับผู้ใช้บัตรเครดิตกันก่อนนะครับ

บัตรเครดิต คือ

ค่าธรรมเนียมรักษาบัญชี

ค่าธรรมเนียมรักษาบัญชีล่าสุด
ค่าธรรมเนียมรักษาบัญชี !!! คุณมีบัญชีเงินฝากที่ไม่เคลือนไหว เพราะว่าไม่ได้มีดำเนินธุรกรรมการเงิน เช่น ไม่ได้ฝาก ไม่ได้ถอน หรือ โอนเงิน นานเกินกว่าที่ธนาคารกำหนดบ้างไหม ถ้ามี ธนาคารมักจะเรียกเก็บ ค่าธรรมเนียมรักษาบัญชี โดยจะต้องมีหนังสือแจ้งเตือน ล่วงหน้า 30 วัน ก่อนจะเริ่มหักค่าธรรมเนียม เมื่อได้รับหนังสือนี้ คุณก็ควรรีบไปเดินบัญชี ด้วยการฝาก ถอน หรือโอน และถ้ามีบัญชีที่ไม่ค่อยได้ใช้แล้วก็ควรปิดบัญชีไปเลย สิ่งที่ควรทำอีกอย่างคือ แจ้งธนาคารทุกครั้งที่มีการย้ายหรือเปลี่ยนแปลงที่อยู่ เพื่อช่วยให้เราไม่พลาดการติดต่อจากทางธนาคาร สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ย รวมถึงเงื่อนไขของสถาบันการเงิน ต่างๆนั้น ดูได้จากเวปไซต์ของ "บัตรเครดิต" บล็อก ซึ่งจะอัพเดทให้ทุกท่านได้รับทราบอยู่เป็นประจำ หรืออีกหนึ่งช่องทางคือ หน้าเวปไซต์ของสถาบันการเงินนั้น หรือ จากสำนักงานสาขาของสถาบันการเงินนั้นๆ ก็ได้ 

อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต

อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตล่าสุด
อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต *** "บัตรเครดิตที่คุณใช้อยู่ คิดอัตราดอกเบี้ยยังไง" ผมเคยถามคนรู้จักคนหนึ่ง คำตอบที่ได้มันทำให้ผมอยากรู้ว่า จริงๆ แล้ว "อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต" มันยังไงกันแน่ และแต่ละธนาคาร แต่ละสถาบันการเงินคิดเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แน่นอนก่อนจะหาคำตอบที่เป็นหลักฐาน ผมก็คิดไว้อยู่แล้วว่า ย่อมมีบางธนาคารที่คิดอัตราเหมือนกัน แต่จะต้องมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่เหมือนกัน และย่อมมีบางธนาคารที่คิดไม่เหมือนกันเลย และสำหรับผม "อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต" มันคือปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งปัจจัยหนึ่ง สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตเลยก็ว่าได้ เพราะว่าทันที่ที่คุณเป็นเจ้าของบัตรเครดิต คุณคงหนีไม่พ้น ค่าธรรมเนียมแรกเข้าบัตรเครดิต ค่าธรรมเนียมรายปีบัตรเครดิต แล้วเมื่อคุณใช้ไปสักพัก หากคุณขาดการชำระหนี้บัตรเครดิต หรือชำระไม่ตรงเวลา คุณก็จะเจอ ค่าธรรมเนียมติดตามทวงถามหนี้บัตรเครดิต ค่าธรรมเนียมต่างๆ เหล่านี้ สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครบัตรเครดิตควรจะต้องรู้ไว้บ้าง ทั้งหมดนี้ที่กล่าวมา หากคุณอยากทราบรายละเอียด คุณไม่ต้องไปค้นหาจากในกูเกิลอีกแล้วครับ เพราะ "บัตรเครดิต" บล็อก เราได้รวบรวม "อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิต" รวมถึง อัตราค่าธรรมเนียมติดตามทวงถามหนี้บัตรเครดิต และหนี้อื่นๆ ไว้ทั้งหมดแล้ว (ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย และเราได้ตรวจสอบและยืนยันได้ว่านี่เป็นข้อมูลล่าสุดแล้ว : เมษายน 2559) จากรูปอ่าจจะไม่ชัด หรือมีข้อมูลธนาคารไม่ครบ คุณสามารถเช็คดูข้อมูลที่ครบถ้วนจากลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ ...

"ชำระบัตรเครดิตอย่างไร" ไม่เสียดอกเบี้ย (หรือเสียให้น้อยที่สุด)


"ชำระบัตรเครดิตอย่างไร" ไม่เสียดอกเบี้ย (หรือเสียให้น้อยที่สุด)
     ปัจจุบันนี้ ผมเชื่อว่า น้อยคนนักที่จะไม่มีบัตรเครดิตอยู่ในครอบครอง ซึ่งจริงๆ แล้ว การมีไว้ก็ไม่เสียหาย และถ้าหากมีเหตุต้องใช้ฉุกเฉิน บัตรเครดิตก็คือตัวเลือกซึ่งถือได้ว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด (ในขณะนั้น) แต่ของทุกอย่างล้วนมีคุณและมีโทษ ไม่เว้นแม้กระทั่งบัตรเครดิตก็ตาม ฉะนั้นแล้ว ก่อนกดบัตรเครดิต คุณควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าของสิ่งของนั้นๆ ให้ดี ว่ามีความจำเป็นแค่ไหน แล้วเมื่อเรารูดบัตรเครดิตไปแล้ว คุณก็ต้องรับภาระชำระหนี้บัตรเครดิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ "บัตรเครดิต" บล็อก ขอแนะนำ "ชำระบัตรเครดิตอย่างไร" ไม่เสียดอกเบี้ย (หรือเสียให้น้อยที่สุด) คุณทราบไหมครับว่า หากคุณเลือกชำระหนี้บัตรเครดิตแบบจ่ายแบบขั้นต่ำ ผลจะเป็นเช่นไร คำตอบก็คือ คุณจะต้องตกอยู่ในวังวนของการจ่ายหนี้เป็นระยะเวลายาวนานครับ เช่น หากคุณรูดบัตรซื้อของไป 75,000 บาท และไม่ซื้ออะไรเพิ่มอีกเลย โดยเลือกชำระหนี้เท่ายอดคงค้างขั้นต่ำ 10% ไปเรื่อยๆ คุณจะต้องใช้เวลาชำระหนี้นานถึง 43 งวด หรือเกือบ 4 ปี ถึงจะปลดหนี้ก่อนนี้ได้ ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นก็ควรชำระเงินให้ตรงเวลา และเต็มจำนวน หรืออย่างน้อยชำระให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ จะดีกว่าครับ จะได้ปลดหนี้ได้เร็ว และไม่เสียดอกเบี้ยเลย หรือไม่เสียมากเกินความจำเป็นอีกด้วย บัตรเครดิตจะเป็นมิตร เมื่อรู้จักใช้ แต่จะเป็นภัย เมื่อใช้จ่ายเกินตัวนะครับ

สลิปบัตรเครดิต-บัตรเอทีเอ็ม อย่าแค่ขยำ ไม่เช่นนั้นเงินท่านอาจหายไปจากบัญชีก็ได้

เตือนภัยบัตรเครดิต (สลิปบัตรเครดิต)

สลิปบัตรเครดิต-บัตรเอทีเอ็ม อย่าแค่ขยำ ไม่เช่นนั้นเงินท่านอาจหายไปจากบัญชีก็ได้ ... เรื่องราวเกี่ยวกับแค่สลิปบัตรเครดิต-บัตรเอทีเอ็ม ที่ผมคิดว่าหลายๆ คนคงมองข้าม กด...รับเงิน...ขยำสลิปทิ้งไป คงต้องบอกว่า เมื่อประมาณสองปีก่อน เรียกได้ว่า เป็นข่าวค่อนข้างใหญ่โตไม่น้อย เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพได้ใช้สลิปแล้วขโมยเงินไปจากบัญชีได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาพอสมควรจึงสามารถตามจับกุมได้บางคน (มีบางคนที่ยังไม่ถูกจับกุมนะครับ) สำหรับวิธีการขโมยเงินนั้น เหล่ามิจฉาชีพ จะตระเวนเก็บสลิปจากหน้าตู้เอทีเอ็มต่างๆ โดยจะดูว่าสลิปใบใดมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีจำนวนมาก เมื่อได้มาแล้วจะนำเลขบัญชีที่อยู่ตรงสลิปไปค้นหาเจ้าของบัญชี ผ่านระบบการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือที่เรียกว่า "อี-แบงกิ้ง" เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วจะไปขอข้อมูลทะเบียนราษฎรจากเจ้าหน้าที่ปกครอง ซึ่งจะทำให้ทราบข้อมูลที่นำมาใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารสำคัญๆ เช่น ที่อยู่ วัน เดือน ปี เกิด รวมถึงหมายเลขบัตรประชาชน ของเจ้าของบัญชีเงินฝากที่เป็นเป้าหมาย เป็นต้น สำหรับวิธีการไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง คนร้ายจะปลอมบัตรประจำตัวข้าราชการ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่บ้าง เป็นนายตำรวจบ้าง ขณะไปติดต่อเจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร จะแต่งเครื่องแบบข้าราชการ และอ้างเหตุผลกับเจ้าหน้าที่ว่า

สงกรานต์-ปีใหม่ เทศกาลไหนๆ "บัตรเครดิต" ใช้อย่างไร จึงจะปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด

สงกรานต์-ปีใหม่ เทศกาลไหนๆ "บัตรเครดิต" ใช้อย่างไร จึงจะปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด
       ในช่วงเทศกาล ไม่ว่าจะเป็น ปีใหม่ สงกรานต์ ตรุษจีน หรือช่วงวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน ผู้คนมักจะออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง กลับบ้านต่างจังหวัดบ้าง และในช่วงนี้เอง ทางธนาคารต่างๆ จะต้องนำเงินเข้าตู้เอทีเอ็มไว้เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเขตชุมชน หรือตู้เอทีเอ็มที่ผู้คนมักไม่ค่อยได้ใช้บริการก็ตาม แต่ไม่ว่าทุกธนาคารจะเตรียมพร้อมไว้แค่ไหน เนื่องจากผู้คนมีจำนวนมาก ทำให้ช่วงเทศกาลเงินในตู้เอทีเอ็ม เรียกได้ว่า ไม่เพียงพอต่อผู้ใช้บริการเลย ทางออกสำหรับผู้คนทั่วไปก็คือ ใช้บริการบัตรเครดิตร่วมด้วย คือ อาจจะกดเงินสดมาไว้ใช้จ่ายบางส่วน และบางส่วนใช้จากบัตรเครดิต เช่น เติมน้ำมันในระหว่างเดินทาง เป็นต้น คงต้องบอกว่า มิจฉาชีพอาศัยช่วงชุลมุนช่วงเทศกาลนี้ อาจจะก่อเหตุเกี่ยวกับบัตรเครดิตก็ได้ เพราะคนเราบางครั้งก็คงมีการสะเพร่า เผลอเรอ เนื่องจากรีบร้อน ไม่ระมัดระวัง ด้วยเหตุนี้ "บัตรเครดิต" บล็อก มีข้อแนะนำ และข้อเตือนภัยเกี่ยวกับบัตรเครดิตมาฝากกันนะครับ ​​​​​​​สำหรับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินต่าง ๆ เป็นบัตรที่อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินของเจ้าของบัตร เช่น ถอนเงิน โอนเงิน ชำระเงิน ซึ่งบัตรเหล่านี้จะบันทึกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงินของเจ้าของบัตรไว้ หากมิจฉาชีพเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้จากการขโมยบัตรหรือขโมยข้อมูลในบัตร มิจฉาชีพก็จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปลอมเป็นเจ้าของบัตรทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ไม่ว่าจะถอนเงินออกจากบัญชี หรือใช้วงเงินสินเชื่อของเหยื่อที่เป็นเจ้าของบัตร