ระหว่าง "สมัครบัตรเครดิต" กับ "รักษาเครดิตบูโร" คุณคิดว่าอะไรยากกว่ากัน

"สมัครบัตรเครดิต" กับ "รักษาเครดิตบูโร"
เชื่อหรือไม่ว่า ระหว่าง "สมัครบัตรเครดิต" กับ "รักษาเครดิตบูโร" อย่างหลังทำได้ยากกว่า ผมว่าหลายท่านคงไม่เห็นด้วยกับผมอย่างแน่นอน และคงคิดว่าเป็นไปได้หรือ แล้วมีเหตุมีผลอย่างไร ก่อนจะสมัครบัตรเครดิตได้ เราจะต้องมีเครดิตดีมาก่อน ไม่งั้น ธนาคารเจ้าของบัตรจะไม่มีทางอนุมัติบัตรเครดิตให้เราแน่ๆ นั่นก็คือ จะต้องมีประวัติการผ่อนชำระในเครดิตบูโรที่ดี เช่น ชำระตามจำนวน หรือชำระตรงเวลา เป็นต้น เมื่อพอเราเริ่มมีบัตรเครดิต และเริ่มใช้สักระยะหนึ่งแล้ว จะมีความรู้สึกว่าตนเองมีกำลังซื้อจากเงินในอนาคตมากขึ้น ทำให้เริ่มมีความคิดเปลี่ยนไป เช่น จากเดิมที่เคยชำระแบบเต็มวงเงิน เริ่มเปลี่ยนเป็นการชำระเพียงบางส่วน ดังนั้น หากไม่มีวินัยในการใช้เงินที่ดีแล้ว จะเริ่มมีการค้างชำระหนี้บัตรเครดิตจาก 1 เดือน เป็น 2 เดือน 3 เดือน และในที่สุดก็ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ถ้าเป็นลักษณะนี้ การรักษาข้อมูลเครดิตบูโรให้ดูดีจะเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งส่งผลต่อการขอกู้เงิน หรือการขอสินเชื่อในครั้งต่อๆ ไป เช่น ในอนาคตหากมีความประสงค์ต้องการซื้อบ้าน รถยนต์ จะทำให้สูญเสียโอกาสในการกู้เงิน เพราะการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ ในปัจจุบัน ใช้วิธีดูประวัติการผ่อนชำระผ่านทางระบบข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) กล่าวคือ หากเป็นผู้ที่มีประวัติการผ่อนชำระไม่ดี อาจไม่สามารถกู้เงินได้อีกในครั้งต่อไป
ดังนั้น "บัตรเครดิต" บล็อก ขอแนะนำให้ทุกท่านควรรู้จักวิธีบริหารจัดการหนี้ เผื่อไว้สำหรับเวลาที่เดือดร้อนเรื่องเงินจริงๆ จะได้สามารถพึ่งพาเครดิตของตัวเองได้ ปัจจัยสำคัญอีกอย่างสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของบัตรเครดิต คือ ไม่มีวินัยในการใช้เงิน และชอบตามใจตัวเอง เรียกว่าใช้จ่ายเงินไม่เป็น อาจก่อให้เกิดปัญหาไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ทันเวลาที่กำหนด ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมา ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการติดตามทวงถามหนี้ ค่าปรับจากการผิดเงื่อนไขการชำระ ดอกเบี้ยที่คิดจากยอดค้างชำระ ทั้งนี้ ยังไม่รวมผลเสียจากความเครียดที่มีเพิ่มขึ้น และสุขภาพจิตที่เสียไปเมื่อขาดเงินชำระหนี้ หนี้บัตรเครดิต ส่วนใหญ่นั้น เนื่องจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีความง่ายและสะดวกสบาย แต่หากขาดการวางแผนที่ดี อาจก่อให้เกิดเป็นหนี้สินได้ หนี้บัตรเครดิตเป็นหนี้อันดับแรกที่ควรชำระ เนื่องจากดอกเบี้ยสูงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเครดิตจะเริ่มคิดดอกเบี้ยนับตั้งแต่วันที่มีการจ่ายเงินแทนลูกค้าออกไป การชำระหนี้บัตรเครดิตจึงต้องเป็นหนี้ก้อนแรกที่หากเป็นแล้วจะต้องกำจัดออกไปให้รวดเร็วที่สุด อย่าลืมนะครับ บัตรเครดิตมีแล้วต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ใช้นั่นเอง