"บัตรเครดิตหาย" ทำอะไรก่อน-หลัง

"บัตรเครดิตหาย" ทำอะไรก่อน-หลัง ปัญหาหนักอกหนักใจของผู้ใช้บัตรเครดิต หลังจากผ่านขั้นตอนบัตรเครดิตธนาคารไหนดี (สมัครบัตรเครดิตธนาคารไหนดี) ปัญหาหนี้บัตรเครดิต ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แล้วถ้าเกิดบัตรเครดิตซึ่งผ่านการสมัครมาอย่างยากลำบากเกิดหายไปล่ะ งานเข้าซิครับ! ปล่อยไว้นานรับรอง ยอดหนี้บัตรเครดิตเต็มวงเงินแน่นอน ทางออกและวิธีแก้ปัญหาจะทำอย่างไร ก่อนอื่นเลย รวบรวมสติแล้วทำตามขั้นตอนที่ทาง บัตรเครดิตบล็อก จะแนะนำต่อไปนี้ อย่างน้อยน่าจะพอช่วยท่านได้ เพราะเรื่องแบบนี้ ไม่เกิดกับตัวเอง ย่อมไม่รู้วิธีรับมือ ทันทีที่รู้ตัวว่าทำบัตรเครดิตหายไปแล้ว หรืออาจจะเพียงแค่สงสัย บัตรเครดิตหาย ต้องเริ่มทำอะไรก่อน-หลัง เริ่มขั้นตอนได้เลยครับ...
บัตรเครดิตหาย ต้องเริ่มทำอะไรก่อน-หลัง

1. ติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อแจังอายัดบัตรเครดิต  อันนี้ไม่ต้องรอ ทันทีที่รู้ตัวว่าทำบัตรเครดิตหาย ไม่ต้องอะไรทั้งนั้นครับ รีบโทรแจ้งทางธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตให้รับทราบก่อนเลย หลังจากนั้นก็แจ้งอายัดบัตรเครดิตทันที ส่วนใหญ่ทุกคนรู้ขั้นตอนนี้กันดีอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้น และทำให้ผู้ที่ต้องการแจ้งบัตรเครดิตหาย ต้องอารมย์เสียบ่อยๆ ก็คือ...มักจะติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตไม่ได้เลย ส่วนใหญ่จะให้ฟังเพลงรอแล้ว...รอเล่า...รอแล้ว...รออีก หรือไม่ก็ ขอโทษค่ะ ขณะเจ้าหน้าที่ให้บริการเต็มทุกคู่สาย กรุณาคอยสักครู่ค่ะ ซึ่งกว่าจะคุยกับมนุษย์จริงๆ นานมากๆ แต่ก็จำเป็นต้องรอครับ เพื่อต้องการจะแจ้งอายัดบัตรเครดิต เนื้อหาสาระก็มีแค่นี้เอง แต่มันช่างยากเย็นจริงๆ มีอีกเรื่องนะครับ ในขั้นตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะสอบถามข้อมูลต่างๆ เราควรจะเตรียมตัวไว้ด้วย เช่น สถานที่ที่ทำบัตรเครดิตหาย รายการล่าสุดที่คุณรูดใช้บัตรเครดิต พร้อมทั้งวันที่และเวลาที่บัตรเครดิตหายด้วย เหล่านี้เป็นต้น

         สำหรับเบอร์โทรศัพท์ของธนาคารต่างๆ สำหรับแจ้งอายัดบัตรเครดิต ซึ่งผมก็หวังว่า ขอให้ไม่มีใครต้องใช้บริการเหล่านี้ ...

  • ธนาคารกรุงไทย 0-2111-1111
  • ธนาคารกสิกรไทย 0-2888-8888
  • ธนาคารทหารไทย 1558
  • ธนาคารกรุงเทพ 1333  (เบอร์ตรงแจ้งอายัดบัตรเครดิต : 02-638-4888,02-638-4000,02-638-4999)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1572
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ 0-2777-7777
  • ธนาคาร UOB จำกัด (มหาชน) 0-2285-1555
  • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย 0-2626-7777
  • ธนาคารธนชาต 1770
  • ธนาคารออมสิน 0-2299-8555
  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 0-2645-9000
  • ธนาคาร City Bank 1588
  • ธนาคาร HSBC  0-2614-4000
  • ธนาคารทิสโก้ 0-2633-6000
  • ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 1302
  • ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (L&H) 0-2359-0000
  • ธนาคาร Standard Chartered 1595


ในส่วนนี้คือ เบอร์โทรศัพท์สถาบันการเงินต่างๆ ที่มิใช่ธนาคาร แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต อาจจะยังไม่ครบถ้วนทั้งหมด แต่ก็นำมา คิดว่าถ้าเกิดปัญหา น่าจะพอมีประโยชน์บ้าง

  • เบอร์โทรศัพท์บัตร Diners Club 0-2238-3660
  • เบอร์โทรศัพท์บัตร Cetelem 0-2667-3655
  • เบอร์โทรศัพท์บัตรเครดิตไทยแอร์เอเชีย 0-2638-4000 กด 181
  • เบอร์โทรศัพท์บัตรเซ็นทรัลการ์ด 0-2627-8899
  • เบอร์โทรศัพท์บัตร American Express 0-2273-5441
  • เบอร์โทรศัพท์บัตร Aeon 0-2665 0123
  • เบอร์โทรศัพท์บัตร Power Buy 0-2904-2000
  •  เบอร์โทรศัพท์บัตรแคปิตอล โอเค 0-2515-3200
  • เบอร์โทรศัพท์บัตร Easy Buy 0-2864-3333
  • เบอร์โทรศัพท์บัตร umay plus 0-2621-4381


2. ไปแจ้งความ เมื่อแจ้งอายัดบัตรกับทาง call center ของธนาคารแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานยืนยันว่าเราได้ทำบัตรเครดิตหาย ไม่ต้องไปสนใจ สน.ไหน ใกล้ที่ไหน จัดที่นั่นเลยครับ กรณีนี้จะช่วยการันตีได้ว่า รายการชำระสินค้าหรือบริการใด ๆ อันเกิดขึ้นหลังแจ้งความไว้ ทางเราไม่มีส่วนรู้เห็นทั้งสิ้น (รายละเอียดบันทึกการแจ้งความมีส่วนสำคัญมากนะครับ)

3. ไปติดต่อธนาคารเจ้าของบัตร สาขาใดก็ได้ เพื่อทำการอายัดบัตรเครดิตกับทางธนาคารแบบเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง เมื่อได้ใบแจ้งความจากสถานีตำรวจมาแล้ว ให้นำไปด้วย เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการขออายัดบัตรเครดิตกับทางธนาคารเจ้าของบัตร เช่นเดียวกันไม่ต้องคำนึงถึงสาขาเล็ก สาขาใหญ่ ใกล้ที่ไหน แจ้งอายัดบัตรเครดิตที่นั่นเลย

4. หาหลักฐานเพิ่มเติมไว้รอ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ผมคงระบุเจาะจงไม่ได้ว่าจะต้องทำอะไร หากบัตรเครดิตท่านหาย เพราะหลายคนก็หลายกรณี แต่ผมขอแนะนำว่า ทำอะไรก็ได้เพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ใช้บัตรเครดิตนั้นแล้ว เช่น เก็บหลักฐานที่เคยเซ็นต์ลายเซ็นต์บนสลิปบัตรเครดิตไว้ให้ดี และพยายามหาพยานหลักฐานว่าตัวเองทำอะไรอยู่ที่ไหน อย่างการเช็กอินไว้บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือมีพยานร่วมรู้เห็นว่าเราอยู่คนละที่ เผื่อในกรณีที่มีคนนำบัตรเครดิตของเราไปรูดใช้ จะได้ใช้หลักฐานดังกล่าว เป็นข้อโต้แย้งต่อไป

5. ห้ามชำระหนี้บัตรเครดิตโดยเด็ดขาด กรณีบัตรเครดิตหาย และเราแจ้งอายัดบัตรเครดิตกับทางธนาคารเจ้าของบัตรไปแล้ว แต่ทางธนาคารเอง ก็อาจจะยังส่งใบชำระบัตรเครดิตมาเรียกเก็บเงินจากคุณตามปกติ ในตอนนี้เราจะต้องไม่ต้องชำระหนี้บัตรเครดิตใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีรายการชำระสินค้าที่เราไม่ได้ก่อ เพราะถ้าหากจ่าย นั่นหมายความว่า เรายอมรับในหนี้นั้น ๆ และแม้ว่าในรายการชำระบัตรเครดิตจะมีหนี้ส่วนที่เรารูดใช้ไปหรือไม่ก็ตาม อย่าลืมนะครับ "ห้ามจ่าย" เพราะถ้าจ่าย หมายความว่า "คุณได้ยอมรับหนี้สิ้นนั้นๆ แล้ว" ข้อแนะนำคือ รอให้กระบวนการฟ้องร้องในชั้นศาลเสร็จสิ้นก่อน จึงค่อยทำการชำระหนี้ในภายหลัง

สรุปกันอีกครั้งนะครับ ว่าถ้าบัตรเครดิตหายแล้ว เริ่มจาก "แจ้งอายัดบัตรเครดิต-แจ้งความ-ติดธนาคารเพื่อแจ้งอายัดเป็นลายลักษณ์อักษร-หาหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์-ห้ามชำระหนี้" จำไว้นะครับ ยิ่งเราทำการอายัดบัตรเครดิตได้เร็วเท่าไร ก็จะยิ่งปลอดภัยต่อทรัพย์สินของเราเท่านั้น และอาจจะไม่ต้องหนักใจกับหนี้ที่ไม่ได้ก่อเลยก็ได้ แต่ก็อาจจะมีเสียเวลาบ้าง แต่มันก็จำเป็น หรือเสียค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตใหม่ สำหรับบุคคลผู้มีบัตรเครดิต เรื่องค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตน่าจะเป็นสิ่งที่เราเตรียมใจไว้รออยู่แล้ว ไม่ยากที่จะทำใจยอมรับ ...ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ